วันพฤหัสบดีที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

Kus วันวานแห่งความทรงจำ







สาธิตเกษตรศาสตร์ สถานศึกษา อบรมจรรยาสมศักดิ์ศรี ทุกคน พากเพียร ล้วนทำความดี ให้สมกับที่เป็นนักเรียนไทย การเรียนเราก็เก่ง การกีฬาไม่ย่อ ความดีไม่ท้อเทิดเกียรติวิไล สัญลักษณ์เขียวม่วงกระเดื่องไปไกล เหมือนสายใยยึดมั่นแต่ความดี


เพลงของโรงโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษายังก้องอยู่ในใจฉันมิรู้ลืม ณ โรงเรียนแห่งนี้ทำให้ฉันได้เรียนรู้สิ่งต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็นความรู้ทางวิชาการ ตั้งแต่คณิตศาสตร์ยันการปลูกพืช และงานฝีมือ หรือ คุณธรรมต่างๆ โรงเรียนก็สอนมิให้ขาดตกบกพร่อง ดั่งคติที่ว่า “รอบรู้ สู้ชีวิต จิตมั่นคง ดำรงคุณธรรม” และที่สำคัญที่สุดก็คือ มิตรภาพระหว่างเพื่อนที่จะไม่เจือจางหายไปตามกาลเวลา


ฉันเรียนที่โรงเรียนนี้ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่1 จนถึงมัธยมศึกษาปีที่6 ที่โรงเรียน แต่ละชั้นจะมี8ห้องโดย ห้อง1-7เป็นภาคปกติ และ ห้องที่8จะเป็นนักเรียนโครงการภาษาอังกฤษ ที่โรงเรียนของฉันมีสถานที่มากมายซึ่งทุกที่ล้วนเป็นที่แห่งความทรงจำและความประทับใจได้แก่


อาคาร1 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่3และ4 สมัยนี้ฉันชอบไปเล่นเครื่องเล่นข้างๆอาคารเรียนบ่อยๆ แม่ฉันจะมารับ เวลาประมาณ5และต้องรีบกลับบ้านให้ตรงเวลาไปดูพระสุธนมโนราห์ตอนเย็นด้วย(พลาดไม่ได้เด็ดขาด)


อาคาร2 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่5 ฉันรู้จักและสนิทกับเพื่อนที่เป็นเด็กที่อยู่ในความดูแลพิเศษของห้อง ปีนี้ฉันได้ไปเข้าค่ายครั้งแรกในชีวิตที่ค่ายทหารเรือ สัตหีบ


อาคาร3สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่6 ฉันมักจะโดนเพื่อนแกล้งอยู่เสม จึงฟ้องพ่อ และอาจารย์ประจำชั้น พ่อส่งจดหมายมาหาอาจารย์ ในที่สุดเด็กที่แกล้งฉันไปสาบานว่าจะไปแกล้งฉันอีกที่ศาลพระภูมิของโรงเรียน ^^ นับจากนั้นฉันและเด็กคนนั้นก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้อยู่ห้องเดียวกันอีกก็ตาม


อาคาร4สำหรับนักเรียนโครงการภาษาอังกฤษ ฉันมีเพื่อนคนนึง จากภาคพิเศษตอนไปเข้าค่ายตอนม.4 ภาคพิเศษเป็นภาคที่หรูหราและมีแอร์ติดด้วย ฉันอยากเรียนภาคนี้เหมือนกันถ้าไม่ติดว่าราคาค่าเทอมแพงT T


อาคาร5 สำหรับนักเรียนมัธยมต้น ฉันรู้จักเพื่อนสนิทที่สุดคนแรกก็ตอนม2นี่แหละเพื่อนคนนี้ชื่อมิ้น แต่ฉันก็เรียกชื่อจริงเธอนะไม่รู้เพราะอะไรเหมือนกัน> < ฉันประทับใจการไปทัศนศึกษาตอนม.2มากๆเลยเพราะเราได้ไปอยุธยาเมืองสำคัญในอดีต และได้ความรู้กลับมามากมาย ฉันจำได้ว่า ไกด์แอบเล่าเรื่องผีด้วยนิดนึง ฉันกลัวมากๆเลย T T อ้อ ตึกนี้ยังมีห้องศิลปะและห้องดนตรีไทยด้วยนะ ซึ่งฉันชอบดนตรีไทยมากๆถึงกับลงเรียนระนาดสองคนกับเพื่อน (คนอื่นเค้าอยากให้เราเล่นได้เต็มที่-*-)แต่ห้องศิลปะเป็นห้องที่ฉันไม่ค่อยชอบเพราะฉันวาดรูปไม่เป็นเลยเพื่อนก็ว่าว่าฉันวาดรูปแย่กว่าเด็กป1ซะอีกT T


อาคาร6 สำหรับนักเรียนมัธยมปลาย ฉันรู้จักเพื่อนสนิทที่สุดอีกคนก็ตอนม.3และเพื่อนคนนี้อยู่ห้องเดียวกับฉันมาตั้งแต่นั้นมาเป็นเวลา4ปีเต็ม เธอคนนั้นชื่อหมิวแต่ฉันก็เรียกเธอว่าชุเสมอ ช่วงมัธยมเป็นช่วงที่ฉันประทับใจที่สุด เพราะเป็นช่วงนี้ฉันและกลุ่มเพื่อน6คนรวมตัวกันได้ มี แป้ง(ฉัน) ชุ(หมิว) รติรัตน์(มิ้น) โบว์ (เพิ่งเข้าตอนม.4 )กิ และ จรวย ตอนเช้าๆ(เกือบเข้าแถวตอน8โมง)เราจะมารวมตัวกันเมาส์เรื่องนู้นเรื่องนี้(ถ้ามาทันนะ กลุ่มเพื่อนฉันเป็นเด็กดีเราจึงไม่ลอกการบ้านตอนเช้า แต่มาสายกันแทน*-*)ตอน10โมงก็จะมีพักกินนมเกือบๆครึ่งชม ถ้าเจอกันเราก็จะทักทายกันและก็แยกย้ายไปเรียนต่อ เที่ยงถึงบ่ายโมง เราก็จะนั่งกินข้าวด้วยกัน (โบว์จะชอบน้ำแข็งเป็นพิเศษ)และก็อาจจะไปเดินเล่นเรื่อยๆและกลับเข้าห้องเรียนตอนเย็นๆ เราจะไปหาไรกินที่อาคาร9ชั้น สิ่งที่ชอบที่สุดก็คือน้ำแข็งใส ใส่เยลลี่จากนั้นก็เปลี่ยนเรื่อยๆ เป็น ลูกชิ้น ที่บาร์ใหม่ ไก่ทอด แล้วก็แอบขึ้นไปนั่งเมาส์กันบนอัศจรรย์ แต่สิ่งที่กลุ่มเราต่างจากกลุ่มอื่นก็คือ รำไทย ชุและกิเป็นคนพาฉันและเพื่อนๆไปเรียนรำไทยกับอาจารย์ระเบียบซึ่งฉันและโบว์จาเป็นคนที่รำไม่เป็นแต่ก็ได้แสดงบทเวทีใหญ่ในงานประจำปีด้วยก็เพราะความช่วยเหลือจาก เพื่อนๆทุกคน(ซาบซึ้ง > <)เวลา12ปีในรั้วสีม่วง ผ่านไปไวมากในความรู้สึกของเพื่อนๆ kus33ทุกคน วันที่เราต้องจากกัน (โควต้า มเกษตร 100ก่าคน เดินชนกันตลอด *-*) เราเอ่ยคำว่าbyeแต่เราก็หวังว่าจะพบกันอีก เพราะ เราคือสาธิตเกษตรรุ่นที่33 และเราจะเป็นเพื่อนกันตลอดไป


อาคาร7
สำหรับนักเรียนประถม1-2 ตอนเด็กๆฉันชอบเล่นที่สนามเด็กเล่นๆข้างๆตึกมีอยู่วันหนึ่งฉันเล่นเป้ายิ้งฉุบพระราชากับเพื่อนจนลืมเวลา ฉันและเพื่อนโดนอาจารย์ไล่ขึ้นไปเลียนซึ่งคาบนั้นเป็นคาบทำอาหาร ฉันกับเพื่อนเกือบตอกไข่ไม่ทัน คิดแล้วก็ยังขำเด็กตัวน้อยๆสองคนที่เล่นจนลืมเวลา-*- สนามเด็กเล่นยังมีอีกเหตุการณ์ที่น่าประทับใจนั่นก็คือการสอบพละซึ่งจะต้องปีนเชือกของเครื่องเล่นขึ้นไป แต่ฉันเป็นคนเดียวที่ปีนขึ้นของเล่นไม่เป็นT T



อาคารเฉลิมพระเกียรติ9ชั้น ตึกสีขาวสูงใหญ่ สร้างเสร็จตอนฉันอยู่ป5


ชั้น1 เป็นชั้นที่กินข้าวของชั้นป1-ป6 (ถาดหลุม)และขายอาหารตอนเย็นและตอนเช้า พวก ขนมปัง ข้าวแกง ไอติม เครป ลูกชิ้นปิ้ง ที่โปรดปรานที่สุดคือเก้าอี้เป็นสีต่างๆเช่นเหลือง ฟ้า และแดง



ชั้น2 เป็นชั้นที่กินข้าวของมัธยม เป็นถาดหลุมเช่นกัน ซึ่งเก้าอี้เป็นเก้าอี้และโต๊ะอลูมิเนียม ไร้สีสัน ตอนแรกฉันก็อยากนั่งเก้าอี้สีๆต่อไปแต่อาจารย์บอกว่าเราควรที่จะโตขึ้นได้ ฉันจึงคิดได้และ คิดว่าฉันเริ่มโตขึ้นเรื่อยๆจริงๆ เป็นเด็กที่มีความรับผิดชอบมากขึ้น และ ตั้งใจเรียนเกรดก็พัฒนาดีขึ้นจากที่ได้2.6ก็ได้เกรดGPA~3.74(ภูมิใจมักมาก^^)

ชั้น3สหกรณ์ เวลาที่โรงอาหารทำข้าวเหลืองๆ หรือสุกี้ นักเรียนบนสหกรณ์จะคึกคักเป็นพิเศษเนื่องจากอาหารอร่อยเกินไป-*- บนสหกรณ์ขายทั้งเครื่องเขียน และที่ทำให้นักเรียนเต็มสหกรณ์ก็ต้องเป็นเพราะ ขนมปัง ขนมขบเขี้ยว โจ๊ก มาม่า ไอติม ที่ขายที่เอง แต่ก็มีข้อห้ามอย่างนึงว่าห้ามเอาขนมออกไปครั้งนึงฉันกับเพื่อนเคยเอาขนมออกไปตอนม.2แล้วโดนพี่เล็กพี่ที่เฝ้าจับได้เพราะเราสองคนไม่เคยแอบเอาขนมออกนอกสหกรณ์มาก่อนจึงวิ่งออกไป(เป็นความฉลาดส่วนบุคคล สมควรลอกเลียนแบบ-*-)



ชั้น4 และชั้น5หอประชุม ทุกวันอังคารจะมีกิจกรรมหน้าเสาธง ซึ่งจู่ๆกลายเป็นกิจกรรมบนเวทีไปได้อย่างไรก็มิอาจทราบได้*-* เด็กนักเรียนที่ไปร่วมส่วนใหญ่ก็ไปนั่งตากแอร์แล้วก็คุยกันมากกว่าอ่านะ อิอิ ยกเว้นคนสำคัญมาพูดจึงจะฟังเช่น พี่แพนเค้กมาโชว์ตัวหลังจากได้รางวัลthai super model หรือAF2มาร้องเพลงตอนงานปีใหม่และพี่นัททิวซึ่งเป็นนักร้องของโรงเรียนไปร้องเพลงแข่งและได้รางวัลที่หนึ่งจากพัชชา AF2 เป็นเหตุการณ์ที่ประทับใจสุดๆ เพราะตอนนี้ฉันคลั่งพี่นัททิวมากมาย> < ชั้น6ชั้นพัสดุ ฉันและเพื่อนต้องเดินขึ้นมาเอาพวกอุปกรณ์ไปทำกีฬาสีตอนม.5 ซึ่งอาจารย์ที่อยู่ที่ห้องพัสดุ บริการดีมากๆเลย ยิ่งตอนที่อาจารย์ให้มาเบิกกระดาษไปทำบอร์ดอาจารย์ก็ให้เบิกกระดาษได้มากเท่าที่จำเป็นอีกด้วย

ชั้น7ชั้น8เป็นห้องกิจกรรม เป็นที่ๆทำกิจกรรมต่างๆของระดับชั้นเพราะมีบริเวณกว้างขวาง ฉันจำได้ว่าเคยมานำเสนองานวิชาอิสระและพัฒนาตน ซึ่งเพื่อนๆแต่ละกลุ่มนำเสนอได้ดีมากๆเลยตอนนั้นอยู่ม.1ฉันลงมายากลคนเดียว เพราะอยาก ปรากฏว่าแอบน่าเบื่อพอสมควร และฉันก็แอบมีอารมณ์จนแกว่งกระดาษไพ่ใบใหญ่ๆที่ประดิษฐ์ขึ้นเกือบหัก-*-

ชั้น9 ห้องพระ ชั้นนี้เดินขึ้นมาเหนื่อยที่สุด T T เราจะมาสวดมนต์เพื่อเป็นสิริมงคลก่อนเข้ามหาลัยและก่อนจบม6 ระหว่างชั้นปีก็มีพระมาเทศน์ก็จะใช้ห้องนี้เป็นห้องปฏิบัติธรรม โดยมีเบาะปูให้นั่งแต่การนั่งพับเพียบก็ทำให้ขาฉันชา จนเกือบลุกไม่ขึ้นอยู่หลายครั้ง


อาคารเกษตร สำหรับปลูกผัก ซึ่งได้ทำการลงสวนจริงๆ ได้ขายผักและได้เงินก้อนแรกที่ทำจากน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง(ภูมิใจมากๆ) อาจารย์ชนะเป็นอาจารย์ที่สอนวิชานี้ซึ่งอาจารย์ได้ไว้วางใจให้ฉันและเพื่อนไปจัดตู้ปลาประกวดอยู่หลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นที่คณะประมง หรือ ที่ห้างสรรพสินค้าที่จัดงานแต่เราก็ไม่เคยได้รางวัลมาให้อาจารย์ภูมิใจเลยสักครั้ง(รู้สึกผิดจิงๆ-*-)


อาคาร และ สนามกีฬา
ภายในอาคารกีฬาชั้นบน
มีที่สำหรับเล่นแบดมินตัน แฮนบอล ซึ่งอบ
สุดๆ ชั้นล่างมีเบาะเล่นยิมนาสติก และสระว่ายน้ำ เหตุการณ์ประทับใจสุดๆก็คือเคยเป็นฮีโร่ตอนป2 งมลงไปเก็บพลาสติกในบ่อน้ำลึก ตอนนั้นฉันว่ายน้ำแข็งมากๆเลยเพราะเรียนมา แต่แกล้งไม่เป็นเพราะไม่อยากเด่น อิอิ(อย่าไปฟ้องอาจารย์ตอนป2ของฉันล่ะ อาจารย์คนนั้นชอบแกล้งฉันบ่อยๆ แต่พอโตขึ้นอาจารย์ก็ลืมฉันซะงั้น สงสัยจะสวยขึ้น > <) สนามในโรงเรียนก็มีหลายสนามมากๆ ไม่ว่าจะเป็นสนามเทนนิส(ที่สร้างเสร็จ แล้วฉันก็ไม่ได้เรียนเทนนิส เพราะสทส ยกเลิกหลักสูตรไป-*-)สนามตะกร้อ(ที่เดาะลูกยังไงก็ไม่ผ่านเป้าที่อาจารย์ตั้ง)สนามฟุตบอลขนาดใหญ่และลู่วิ่ง4ลู่ล้อมรอบ(ทดสอบสมรรถภาพทุกเทอม ครั้งละ 5รอบ เหนื่อยมากๆ ฉันวิ่งช้ามากT T )และสนามบาสเก็ตบอล(ฉันเคยเดาะลูกท่ามกลางสายฝน เพราะชู้ตลูกผ่านแป้นจับเวลายังไงก็ไม่ผ่านซะทีT T) ฉันละไม่เหมาะกับกีฬาจริงๆ เฮ้อ นอกจากสถานที่แห่งความทรงจำต่างๆแล้ว โรงเรียนสาธิตเกษตรเป็นโรงเรียนที่มีกิจกรรมเยอะมากมาย ที่ทำให้ได้เรียนรู้ทักษะต่างๆ และที่สำคัญคือบางกิจกรรมก็จะกินคาบเรียนไปด้วย> < เช่นงานประจำปีที่จะให้ป1-ม.3ได้แสดงกลางแจ้ง และ ม.4-ม.6ที่เล่นดนตรีบนเวทีใหญ่ช่วงกลางคืน นักเรียนทุกคนจะต้องฝึกซ้อมในชมเรียนหนิแหละ(นั่นแหละเหตุผลว่าทำไมนักเรียนสาธิตถึงชอบงานประจำปี*O*) และยังมีงานวันพ่อ วันแม่ วันเด็ก ที่จะมีกิจกรรมพิเศษตอนเช้าๆ ซึ่งอาจจะเลทเกินเวลาเรียนไปบ้างจนบางครั้งอาจารย์โรงเรียนสาธิตเกษตรต้องแย่งชมกันสอน เพราะสอนไม่ทัน!!!!!! อาจารย์โรงเรียนฉันนี่เป็นอาจารย์ที่ดีมากๆเลย เป็นอาจารย์ที่มีอัธยาศัยดีทุกคน ถึงอาจารย์บางคนจะดุ แต่อาจารย์ก็หวังและอยากให้นักเรียนเป็นคนดีของสังคมอาจารย์ที่รักของลูกศิษย์ทุกคน คงหนีไม่พ้น อดีตอาจารย์ใหญ่ หรืออาจารย์เกื้อกูล ทาสิทธิ์ อาจารย์เป็นอาจารย์ที่ฉันเคารพมากถึงแม้จะไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวแต่อาจารย์ก็จะพูดหน้าเสาธงและอวยพรตามโอกาสต่างๆอยู่เสมอ แต่อาจารย์เกษียณไปตอนม.6สร้างความเสียใจให้นักเรียนที่อยู่หลายๆคนอย่างมาก แต่อาจารย์ใหญ่คนต่อมาก็ดี เพราะอาจารย์เป็นอาจารย์ที่ใจดีเหมือนๆกับอาจารย์เกื้อกูล ถึงแม้ว่าฉันจะพูดถึงแต่อาจารย์ใหญ่ แต่อาจารย์คนอื่นๆก็เป็นอาจารย์ที่ฉันเคารพรักทุกคนไม่ว่าจะเป็น อาจารย์สุจิณ อาจารย์พรรัตน์ อาจารย์ระเบียบ อาจารย์อัชชา อาจารย์จารุมาลย์ อาจารย์เพ็ญนภา และอาจารย์ทุกๆคนที่ฉันรู้จัก ท้ายที่สุดนี้ ก็อยากจะบอกว่า รักโรงเรียนสาธิตเกษตร และจะไม่มีวันลืมเลือนว่าครั้งหนึ่งเคยมีประสบการณ์ที่แสนพิเศษเกิดขึ้นที่โรงเรียนแห่งนี้มากมายเลยทีเดียว










































หัวใจผูกกัน.mp3 - BOYd

*********************************************************************************




























Get your own Falling Objects at MyCuteSpace.com!